เจ้าของน้องต้องรู้! โรคใดบ้างที่ต้องฉีดวัคซีนสุนัขประจำปี
จำนวนผู้เข้าชม : 1493

เจ้าของน้องต้องรู้! โรคใดบ้างที่ต้องฉีดวัคซีนสุนัขประจำปี
สำหรับคนเลี้ยงสุนัข หรือน้องหมา การดูแลให้สัตว์เลี้ยงตัวโปรดอย่างน้องหมาแข็งแรง มีสุขภาพดี ไม่เจ็บไม่ป่วย ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ และจำเป็นต่อสุขภาพของน้องหมามาก ๆ โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนสุนัข เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคต่าง ๆ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคติดต่อ ตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัขตัวเล็ก ๆ เพื่อที่จะได้เติบโตมาสุขภาพสมบูรณ์ แต่คนเลี้ยงสุนัขหลายคนอาจจะสับสนว่า จะต้องฉีดวัคซีนอะไรบ้าง ฉีดเมื่อไร่ วัคซีนตัวไหนจำเป็นไม่จำเป็นอย่างไร เราจะมาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันกับ เจ้าของน้องต้องรู้! โรคใดบ้างที่ต้องฉีดวัคซีนสุนัขประจำปี
รู้จักกับ 6 โรคติดต่ออันตรายของน้องหมา
สิ่งที่คนเลี้ยงสุขมือใหม่ต้องรู้ไว้ก็คือ ลูกสุนัขอาจเสียชีวิตได้ง่ายตอนอยู่ในช่วงอายุ 3 เดือนแรก โดยเฉพาะลูกสุนัขที่ไม่ได้กินนมแม่ ซึ่งจะมีผลให้ภูมิคุ้มกันลดต่ำลงเรื่อย ๆ นั่นเอง ดังนั้น เราจะมาดูกันว่าโรคอันตรายของน้องหมา ที่เจ้าของต้องระวังมีโรคอะไรบ้าง
1. โรคลำไส้อักเสบ (Canine parvovirus)
เป็นโรคที่พบบ่อยมากในลูกสุนัขอายุเฉลี่ยประมาณ 2-3 เดือน เกิดจากเชื้อไวรัสที่ได้มาจากการสัมผัสอุจจาระของสุนัข อาการเริ่มแรก สุนัขจะมีอาการกินน้อยลง เบื่ออาหาร อาเจียน ท้องเสีย มีไข้สูง และเซื่องซึม หากถ่ายออกมาเป็นเลือดถือว่าอาการรุนแรง มีความเสี่ยงอาจอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
2. โรคไข้หัดสุนัข (Canine distemper virus)
เป็นโรคที่ติดต่อผ่านทางเดินหายใจ ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ระบบของการย่อยอาหาร สุนัขจะอาเจียน ท้องเสียบ่อย จนทำให้เกิดภาวะสมองอักเสบได้ หากติดเชื้อรุนแรงก็มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้ มักเกิดกับสุนัขอายุประมาณ 3-6 เดือน
3. โรคหวัดและหลอดลมอักเสบ (Kennel Cough)
เป็นโรคที่ติดต่อผ่านการสัมผัสกับเชื้อโรคในอากาศ ที่เกิดจากเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย มักจะพบบ่อยในหน้าหนาวหรือช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย หากเลี้ยงสุนัขรวมกันหลาย ๆ ตัว ก็มีความเสี่ยงในการติดโรคนี้เอาได้ง่าย ๆ
4. โรคตับอักเสบ(Hepatitis)
เป็นโรคที่ติดต่อจากสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจ น้ำมูก น้ำลาย หรือเลือด หรืออาจมีการปนเปื้อนผ่านมาทางปัสสาวะ อุจจาระของสุนัข ที่ติดเชื้อสุนัขที่เกิดภาวะตับอักเสบ จะมีอาการซึมไข้สูง อาเจียน ผิวหนังเกิดรอยฟกช้ำจากต่อมน้ำเหลืองบวม
5. โรคฉี่หนู (Leptospirosis)
อันตรายของโรคนี้คือสามารถติดต่อสุนัขและเจ้าของได้ สาเหตุเกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ปนเปื้อนอยู่ในฉี่หนู หรือจากปัสสาวะของสัตว์ป่วย สุนัขจะมีอาการหงอย ซึม เบื่ออาหาร มีไข้สูง หากรุนแรงจะส่งผลต่ออวัยวะอื่น ๆ จนเกิดอันตรายถึงชีวิตได้
6. โรคพิษสุนัขบ้า หรือโรคกลัวน้ำ (Rabies)
อีกหนึ่งโรคติดต่อที่ร้ายแรงของสุนัข ที่เราคุ้นหูกันเป็นอย่างดี เกิดจากเชื้อไวรัสที่ติดจากทางน้ำมูก น้ำลาย ของสัตว์ที่ติดเชื้อ เป็นโรคที่สามารถติดต่อได้ทั้งสุนัขและเจ้าของ อาการในเบื้องต้นคือสุนัขจะหงุดหงิด ดุร้ายขึ้น จนไล่กัดสัตว์ตัวอื่นหรือไล่กัดคน แต่สุนัขบางตัวอาจมีอาการเซื่องซึม ปากอ้าหุบไม่ได้ คอบวม และมีพฤติกรรมแปลก ๆ เช่น เอาขาหน้าตะกุยบริเวณปากและแก้ม ลุกนั่ง เดินไปมาบ่อย ๆ ต้องหมั่นสังเกตอาการให้ดี เพราะเชื้อพิษสุนัขบ้ามีระยะฟักตัวประมาณ 2-8 สัปดาห์
การฉีดวัคซีนสุนัขประจำปี
ก่อนจะพาน้องหมาไปฉีดวัคซีน ควรต้องรู้ไว้ก่อนว่าสุนัขที่จะฉีดวัคซีนได้นั้น จะต้องมีสุขภาพดี ร่างกายแข็งแรง หากไม่แน่ใจแนะนำให้ไปปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนว่า สุนัขของเราแข็งแรงพอที่จะฉีดวัคซีนได้แล้วหรือยัง โดยการการฉีดวัคซีนสุนัขประจำปี มีดังนี้
1. วัคซีนรวม 5 โรค
เรียกว่าเป็นวัคซีนพื้นฐานที่มีความจำเป็นมาก ๆ สำหรับสุนัข เพราะจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันและช่วยป้องกันโรคติดต่อร้ายแรง ตามที่กล่าวเอาไว้ด้านบนได้นั่นเอง
2. วัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า
อีกหนึ่งวัคซีนที่จำเป็นเช่นกัน คือ วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า หรือป้องกันโรคที่อาจเกิดจากการถูกสัตว์ที่มีเชื้อพิษสุนัขบ้ากัด หรือข่วน
โดยอายุเฉลี่ยของสุนัขในการรับวัคซีนสุนัขประจำปี มีดังนี้
อายุ 1 เดือน ควรพาไปถ่ายพยาธิและตรวจสุขภาพเบื้องต้น
อายุ 2 เดือน ฉีดวัคซีนรวม 5 โรค เข็ม 1
อายุ 2 เดือนครึ่ง ฉีดวัคซีนรวม 5 โรค เข็ม 2
อายุ 4 เดือน ฉีดวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า เข็ม 1
อายุ 7 เดือน ฉีดวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า เข็ม 2
โดยวัคซีนแต่ละเข็มควรฉีดให้ห่างกันอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ และควรฉีดวัคซีนวัคซีนรวม 5 โรค และวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้ากระตุ้นทุกปี ปีละ 1 ครั้ง
การดูแลสุนัขหลังจากฉีดวัคซีน
การฉีดวัคซีนสุนัขต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้สุนัขแข็งแรง มีความสุข ร่าเริง และมีสุขภาพดี แต่หลังการฉีดวัคซีนสุนัขทุกครั้ง ก็ต้องคอยสังเกตอาการและดูแลเป็นอย่างดี ดังนี้
- หากพบว่าสุนัขมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร และมีไข้เล็กน้อย ถือว่าเป็นอาการปกติหลังฉีดวัคซีน แต่หากยังมีอาการหลังจากผ่าน 48 ชั่วโมงไปแล้ว ควรรีบปรึกษาสัตวแพทย์ในเบื้องต้น
- ไม่ควรพาสุนัขออกไปนอกบ้านก่อนฉีดวัคซีนครบตามกำหนด เพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขมีความเสี่ยงต่อการสัมผัสโรคจากสัตว์ตัวอื่น
แม้ว่าจะดูแลสัตว์เลี้ยงดีอย่างไรก็ตาม แต่สัตว์เลี้ยงตัวโปรดของเราก็มีความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดได้ และเมื่อเกิดเหตุขึ้นมาจริง ๆ แล้ว ทำให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงต้องมาคอยกังวลกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทั้งค่าวัคซีน ค่ารักษาพยาบาล ที่ค่อนข้างแพง ทางเลือกที่ตอบโจทย์ในการดูแลน้องหมาน้องแมวให้มีสุขภาพดี ลดภาระ ช่วยให้การเลี้ยงสัตว์ไม่ใช่เรื่องหนักอีกต่อไปก็คือ เลือกทำประกันสัตว์เลี้ยงกับ TIPINSURE ประกันที่ให้ความคุ้มครอง ครอบคลุม ครบทุกความต้องการของคนเลี้ยงน้องหมาน้องแมว และออกแบบเพื่อให้คนรักสัตว์คลายกังวลกับเรื่องค่าใช้จ่าย เป็นการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับสัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณ